ประเทศไทยขึ้นชื่อว่าเมืองร้อน ยามพักผ่อนอยู่บ้านก็อยากจะได้อากาศเย็นๆสบายๆ บ้าง แล้วจะทำยังไงให้บ้านเรา เย็นขึ้นมาได้บ้าง วันนี้เราหาข้อมูล จากบ้านและสวนมาฝากคะ
1. หลังคาขาวๆ ความร้อนภายในบ้านนั้นจะส่งผ่านมาทางหลังคามากที่สุด การเลือกใช้หลังคาสีขาวหรือสีอ่อนจะช่วยให้บ้านเย็นลงได้ เพราะมีผลวิจัยว่าหลังคาสีขาวช่วยสะท้อนความร้อนได้มากถึง 75 เปอร์เซ็นต์ สีครีม 65 เปอร์เซ็นต์  สีฟ้าอ่อน 50 เปอร์เซ็นต์   สีแดง 26 เปอร์เซ็นต์ และสีเทา 25 เปอร์เซ็นต์ อุณหภูมิภายในบ้านเราก็จะเย็นลง 5 -10 องศาเซลเซียส นอกจากนี้รูปแบบของหลังคาก็มีผลต่อการสะท้อนแสงเช่นกัน หลังคาเรียบแบนหรือหลังคาเพิงหมาแหงนจะช่วยสะท้อนความร้อนสู่ชั้นบรรยากาศได้โดยตรง ทั้งยังไม่รบกวนสายตาและสะท้อนความร้อนสู่บ้านข้างเคียงอีกด้วย 2. เพิ่มผนังเป็นสองชั้น ผนังด้านทิศตะวันตกหรือใต้ที่ได้รับแสงแดดและความร้อนเต็มๆในช่วงกลางวันควรทำผนังหนาสองชั้น โดยใช้วัสดุที่ระบายความร้อนได้ดี เช่น ผนังก่ออิฐฉาบปูน ผนังก่ออิฐมวลเบา หรือผนังเบาอย่างแผ่นยิปซัมหรือสมาร์ทบอร์ด อย่าลืมเว้นพื้นที่ตรงกลางสำหรับการระบายอากาศหรือจะติดฉนวนกันความร้อนอีกชั้นก็ได้ เพื่อป้องกันไม่ให้ความร้อนแทรกซึมเข้าสู่ภายในบ้านได้ง่ายๆ 3. สีเย็น…สบายตัว ผนังภายในบ้านควรเลือกใช้โทนสีอ่อนหรือโทนสีพาสเทล เช่น ฟ้าอ่อน เขียวมินต์ เพราะโทนสีเหล่านี้มีผลต่ออารมณ์ของผู้อยู่อาศัย ช่วยให้รู้สึกเย็นตา ผ่อนคลาย นอกจากนี้ยังกระจายแสงได้ดีกว่าสีเข้ม จึงไม่เก็บสะสมความร้อนไว้นาน 4. พัดลมติดเพดาน นอกจากการเปิดหน้าต่างให้ลมได้ระบายเข้า-ออกแล้ว การติดพัดลมบนเพดานยังช่วยเพิ่มการหมุนเวียนของอากาศภายในบ้านได้อีกทางหนึ่ง โดยเลือกติดตั้งเหนือพื้นที่ที่ใช้งานบ่อยๆ เช่น ส่วนรับแขก ส่วนนั่งเล่น โต๊ะรับประทานอาหาร ก็จะช่วยให้เหงื่อระบายได้เร็วขึ้น ไม่ร้อนอับ 5. ยิ่งนั่งยิ่งเย็น โซฟาหรือเก้าอี้ที่ต้องสัมผัสตัวผู้ใช้งาน หากไม่ใช่หนังแท้ ก็แนะนำให้หาตั่งไม้หรือเก้าอี้หวายจะดีกว่า เพราะโซฟาบุผ้านวมนุ่มๆ ยิ่งนั่งจะยิ่งร้อน บางครั้งก็มีกลิ่นเหม็นอับจากการดูดซับเหงื่อ แถมยังเก็บฝุ่นอีกด้วย 6. เท้าเย็น…กายก็เย็น พื้นชั้นล่างเลือกปูแผ่นกระเบื้องเซรามิก พอร์ซเลน ดินเผา หรือหินธรรมชาติอย่างหินอ่อนและหินแกรนิตดีกว่า เพราะกักเก็บความเย็นจากพื้นดินได้ดี และระบายความร้อนได้เร็ว ช่วยลดอุณหภูมิพื้นให้เย็นลงได้ เมื่อเท้าสัมผัสจะรู้สึกเย็นสบาย แนะนำให้ใช้กับส่วนทางเดินหลัก ส่วนนั่งเล่น หรือห้องนอน อย่ากลัวว่าจะให้ความรู้สึกเหมือนห้องน้ำ เพราะเดี๋ยวนี้มีกระเบื้องลายสวยน่าใช้ให้เลือกมากมาย 7. เลิกใช้หลอดไส้ ใครยังใช้หลอดไส้กับโคมไฟ แนะนำให้เปลี่ยนมาใช้หลอดฟลูออเรสเซนต์ หลอด T5 หรือหลอดแอลอีดีจะดีกว่า เพราะนอกจากจะให้ปริมาณแสงสว่างน้อยกว่าแล้ว หลอดไส้ยังปล่อยความร้อนออกมามากถึง 100 – 400 องศาเซลเซียส รับรองว่าเปลี่ยนแล้วจะช่วยประหยัดเงินและลดความร้อนภายในบ้านด้วย 8. กันแดดไม่ให้เข้า อีกวิธีที่ช่วยให้บ้านไม่ร้อนคือป้องกันแสงแดดเข้าสู่บ้านโดยตรง หน้าต่างบานใหญ่ด้านทิศตะวันตกและใต้ควรติดฟิล์มกันความร้อนและติดตั้งผ้าม่านกันแสง (Blackout) เพิ่ม เพื่อช่วยกันความร้อนเข้าสู่ตัวบ้านในช่วงกลางวัน หน้าต่างบานเล็กหรืออยู่ทิศอื่นอาจใช้ผ้าม่านสองชั้น ชั้นหนึ่งเป็นผ้าโปร่ง อีกชั้นเป็นผ้าม่านทึบ ก็ช่วยกรองแสงเข้าบ้านในช่วงกลางวันได้ 9. ยื่นกันสาด ป้องกันความร้อนเข้าสู่บ้านโดยตรงด้วยการติดตั้งกันสาดในบริเวณที่โดนแสงแดดเต็มๆ เลือกติดได้ทั้งแนวตั้ง แนวนอน และแนวผสม แล้วแต่ทิศทางของแสง เช่น ผนังด้านทิศใต้ควรติดตั้งแบบผสม ทิศตะวันออกและตะวันตกควรติดตั้งกันสาดในแนวตั้ง โดยเลือกใช้วัสดุที่ไม่สะสมความร้อนอย่างไม้ระแนง กระเบื้องหลังคาไฟเบอร์ซีเมนต์ และหลังคาโลหะรีดลอน บริเวณโดยรอบก็ปลูกต้นไม้ หรือใช้วัสดุธรรมชาติอย่างหินกรวดแทนพื้นคอนกรีต ก็ยิ่งช่วยระบายความร้อนได้เร็วยิ่งขึ้น
ขอบคุณข้อมูลที่มา บ้านและสวน