บ้าน คือพื้นที่แห่งความสุข เต็มไปด้วยความผูกพันและความทรงจำ ที่ถูกหล่อหลอมเพิ่มขึ้นสวนทางกับสภาพบ้านที่เสื่อมสภาพลงตามกาลเวลา การเลือกรีโนเวทบ้าน แทนการสร้างบ้านหลังใหม่ขึ้นมาทั้งหลังจึงเป็นทางเลือกหนึ่งที่เจ้าของบ้านหลายคนเลือก เพื่อคงกลิ่นอายของพื้นที่แห่งความสุขไว้ในบรรยากาศใหม
8 เคล็ดลับรีโนเวทบ้านอย่างชาญฉลาด
เพื่อให้การรีโนเวทบ้านเป็นไปอย่างราบรื่น ได้บ้านที่ตรงตามความต้องการ ตอบสนองการอยู่อาศัยในระยะยาว เจ้าของบ้านควรเตรียมพร้อมในด้านต่างๆ ดังนี้
1. สำรวจความต้องการในการรีโนเวท
การรีโนเวทบ้านแต่ละครั้งมีค่าใช้จ่ายไม่น้อย ขึ้นอยู่กับขนาดงานและการใส่ฟังก์ชันรองรับการใช้งาน ดังนั้นเจ้าของบ้านควรสำรวจความต้องการในการรีโนเวทว่าเป็นไปเพื่อการซ่อมแซมจากความเสื่อมโทรม หรือเปลี่ยนสไตล์ ปรับฟังก์ชันการใช้งาน หรือเพื่อปรับปรุงขยับขยายต่อเติมพื้นที่ เพื่อให้การดำเนินงานในขั้นตอนอื่นๆ เป็นไปได้ง่ายขึ้น และมีทิศทางที่ชัดเจนให้กับผู้ออกแบบ
2. เลือกผู้เชี่ยวชาญที่มีความเป็นมืออาชีพ
การปรับปรุงปรับบ้านอาจไม่ใช่การดำเนินการทุกอย่างใหม่หมดเหมือนสร้างบ้าน แต่ก็ถือว่ามีขึ้นตอนที่ซับซ้อนไม่ต่างจากการสร้างบ้านใหม่ หรือบางครั้งอาจซับซ้อนยิ่งกว่า
เพื่อให้ได้บ้านบรรยากาศใหม่ในพื้นที่เดิม เจ้าของบ้านจึงควรมีทีมผู้เชี่ยวชาญเพื่อช่วยวางแผนการรีโนเวทอย่างมีมาตรฐาน ทั้งด้านของการออกแบบ การดำเนินการขออนุญาตซ่อมสร้าง การติดต่อประสานงานกับทีมช่าง ทีมทำงาน การเลือกใช้วัสดุ การวางแผนเรื่องงบประมาณ ตลอดจนการวางแผนขึ้นตอนดำเนินงาน และระยะเวลาแล้วเสร็จ
3. สำรวจพื้นที่ ตรวจสอบระบบ และจัดระเบียบบ้านก่อนรีโนเวท
หากเจ้าของบ้านมีทีมผู้เชี่ยวชาญจากบริษัทรับสร้างบ้าน หรือทีมงานที่เป็นมืออาชีพ ช่วยในการสำรวจพื้นที่ก่อนออกแบบวางแผนรีโนเวท จะทำให้ขั้นตอนต่างๆ ง่ายขึ้น เพราะการสำรวจนั้นมีทั้งส่วนของพื้นที่นอกบ้าน โครงสร้างทั้งหมดของบ้าน พื้นที่ส่วนต่างๆ ของบ้าน การทรุด การร้าว รวมถึงระบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ระบบน้ำ ไฟ ทิศทางลม แดด และการระบาย
นอกจากนี้การรีโนเวทบ้าน ควรมีการจัดการเคลียร์ข้าวของเครื่องใช้ และเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ โดยแยกส่วนของที่จะเก็บไว้ใช้งาน และส่วนที่ต้องการทิ้ง เพื่อง่ายต่อการเคลียร์พื้นที่ และทำให้บ้านดูโปร่งโล่งขึ้น
4. คำนึงถึงฟังก์ชันการใช้งานรองรับไลฟ์สไตล์ของสมาชิก
การรีโนเวทบ้านให้เกิดประโยชน์อย่างคุ้มค่า ไม่ควรเป็นไปเพื่อปรับปรุงบ้านสภาพเก่าให้ใหม่และสวยงามเพียงอย่างเดียว แต่ต้องเป็นบ้านที่มีฟังก์ชันครบครัน เอื้อต่อการใช้ประโยชน์และชีวิตตามไลฟ์สไตล์ของสมาชิกในครอบครัวตลอดการอยู่อาศัย
หากมีการวางแผนการออกแบบและรีโนเวทได้อย่างตอบโจทย์จะช่วยสร้างความสะดวกสบายให้กับสมาชิก สามารถใช้งานได้ในระยะยาว ลดปัญหาการต่อเติมแก้ไขในภายหลัง
5.จัดสรรงบประมาณอย่างรอบคอบ แบ่งจ่ายเป็นงวดๆ
การเลือกใช้บริการจากบริษัทรับสร้างบ้าน หรือทีมทำงานที่มีความเป็นมืออาชีพ จะช่วยลดปัญหาค่าใช้จ่ายยืดเยื้อบานปลายภายหลัง เพราะทีมงานมีการวางแผนทุกขั้นตอนการทำงาน เสมือนการสร้างบ้านใหม่ โดยระบุระยะเวลาการทำงานและค่าใช้จ่ายส่วนต่างๆ ไว้อย่างชัดเจน ทำให้เจ้าของบ้านไม่ต้องเสี่ยงต่อการจ่ายเพิ่มภายหลังหากราคาค่าวัสดุผันผวน และเจ้าของบ้านไม่ต้องจ่ายเงินก้อนทีเดียว เพราะบริษัทรับสร้างบ้านจะมีรายละเอียดการจ่ายเงินเป็นงวดๆ จึงไม่ต้องเสี่ยงกับการโดนเทงาน และสูญเงินเปล่า
6. เลือกแบบบ้านที่เหมาะกับงบและการใช้งาน
แบบบ้านที่ดีนอกจากจะสวยงามน่าพักอาศัย ใช้งบรีโนเวทไม่บานปลายแล้ว ควรมีส่วนประกอบต่างๆ ที่เมื่อสร้างออกมาแล้วมีมาตรฐานตามหลักวิศวกรรม รวมทั้งมีพื้นที่ใช้สอยแต่ละส่วนรองรับการอยู่อาศัย การทำกิจกรรมต่างๆ ของสมาชิกอย่างครบถ้วน
ดังนั้นหากเลือกใช้บริการจากบริษัทรับสร้างบ้านในการรีโนเวท จะทำให้มีผู้เชี่ยวชาญที่สามารถออกแบบบ้านใหม่ในพื้นที่เดิม หรือพัฒนาจากแบบบ้านเดิมให้มีมาตรฐานเหมาะกับการใช้งาน และมีความปลอดภัยมากขึ้น
7. ศึกษากฎหมายการดัดแปลงอาคาร
แม้การเลือกใช้บริการจากบริษัทรับสร้างบ้านจะช่วยลดภาระเจ้าของบ้านในการศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดทุกด้าน หรือการลงแรงในการดำเนินการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการรีโนเวทบ้านทุกขั้นตอน แต่เจ้าของบ้านก็ควรศึกษาข้อมูลไว้อย่างรอบด้วนด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะกฎหมายเกี่ยวกับอาคาร เพราะมีส่วนที่ควบคุมการต่อเติมดัดแปลงอาคารอยู่ เพื่อให้รู้ขอบเขตสิ่งที่จะสามารถทำได้และข้อจำกัดต่างๆ
8. เตรียมที่อยู่รองรับระหว่างรีโนเวท
การซ่อมแซมดัดแปลงบ้านใหม่นอกจากเจ้าของบ้านจะต้องจัดระเบียบเคลียร์ข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ให้อยู่ถูกที่ถูกทาง ไม่เป็นอุปสรรคต่อการทำงานของทีมช่างแล้ว สิ่งสำคัญคือควรหาที่พักสำรองไว้ชั่วคราว เพื่อความสะดวกในการทำงานของทีมรีโนเวท และความปลอดภัยของสมาชิกที่ไม่ต้องเสี่ยงอันตรายจากอุปกรร์ก่อสร้าง และเสี่ยงต่อเสียงดังๆ ที่รบกวนสุขภาพจิต ทั้งนี้เจ้าของบ้านควรรอจนกว่าการรีโนเวทจะเสร็จสมบูรณ์จึงย้ายเข้าอยู่
การรีโนเวทบ้านเป็นการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงบ้านในพื้นที่เดิมให้เจ้าของบ้านได้บรรยากาศการอยู่อาศัยใหม่ แต่ยังคงความทรงจำและกลิ่นอายแห่งความผูกพันนั้นไว้ ดังนั้นก่อนตัดสินใจเลือกทีมทำงานเจ้าของบ้านจึงควรพิจารณาเลือกอย่างดีเสมือนการสร้างบ้านใหม่ เพื่อให้บ้านที่รีโนเวทมีมาตรฐานและเป็นบ้านแห่งความทรงจำที่ใช้ประโยชน์ได้อีกยาวนานในอนาคต
ขอบคุณที่มา สมคมธุรกิจสร้างบ้าน