Probaan

21 ธันวาคม 2020

SUPALAI เล็งQ4เฮ ปันผลมียิลด์6% พื้นฐาน 21.50 บ.

ทันหุ้น –SPALI โบรกชี้แบ็กล็อกแข็งแกร่งกว่า 3.2 หมื่นล้านบาท รอรับรายได้ปี 2564-2567 ด้านฐานะการเงินแข็งแรงจ่อบุ๊กกระแสเงินสดเข้ามาจำนวนมากหลังจากจัดตั้ง SPALIRT พร้อมประเมินกำไรรายไตรมาสจะทำจุดสูงสุดของปีนี้ในไตรมาส 4/2563 ชูผลตอบแทนจากเงินปันผลน่าสนใจที่ราว 6% ต่อปี ปรับราคาเป้าหมายอยู่ที่ 21.50 บาท

บริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จำกัด ระบุถึง บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) หรือ SPALI ว่าจะทำยอดขายได้ตามเป้าที่บริษัทวางไว้ในปี 2563 ที่ 2.6 หมื่นล้านบาท (+16% จากปีก่อน) โดยได้รับการสนับสนุนจากการเปิดตัวโครงการบ้านแนวราบ 9 โครงการในไตรมาส 4/2563 มูลค่า 6.6 พันล้านบาท

ซึ่งหมายความว่า SPALI จะต้องทำยอดขายเพิ่มเพียง 5.6 พันล้านบาท ในไตรมาส 4/2563 น้อยกว่ายอดขายเฉลี่ยต่อไตรมาสที่ 6.8 พันล้านบาท สัดส่วนยอดขายจากบ้านแนวราบในปี 2563 คาดว่าจะอยู่ที่ 65% จากการเปิดตัวบ้านแนวราบรวม 26 โครงการ มูลค่า 1.9 หมื่นล้านบาท และที่เหลือ 35% มาจากคอนโดมิเนียม จากการเปิดตัวคอนโดมิเนียมรวม 3 โครงการ มูลค่า 5.8 พันล้านบาท

*Backlog แข็งแกร่ง

ทั้งนี้ SPALI มียอดขายรอโอน (Backlog) ในมือสำหรับปี 2564-2567 มูลค่ารวม 3.2 หมื่นล้านบาท ซึ่ง 46% จะรับรู้เป็นรายได้ในปี 2564, 39% ในปี 2565, 5% ในปี 2566 และ 10% ในปี 2567 เมื่อรวมกับยอดขายบ้านแนวราบที่แข็งแกร่งซึ่งจะรับรู้รายได้ภายใน 1 ปี จึงปรับประมาณการรายได้ปี 2564 เพิ่มขึ้น 10% สู่ 2.48 หมื่นล้านบาท (+20% จากปีก่อน) โดย Secured Revenue อยู่ที่ 60% และคาดการณ์ถึงกำไรที่แข็งแกร่งในไตรมาส 2-3

โดยได้รับการสนับสนุนจากโครงการหลักๆ 3 โครงการที่จะโอนในปี 2564 คือ ศุภาลัย พรีเมียร์ เจริญนคร (มูลค่าโครงการ 3 พันล้านบาท, ขายได้แล้ว 100%), ศุภาลัย ริวา แกรนด์ (มูลค่าโครงการ 6.8 พันล้านบาท, ขายได้แล้ว 73%) และ ศุภาลัย เวอเรนด้า สถานีภาษีเจริญ (มูลค่าโครงการ 4.5 พันล้านบาท, ขายได้แล้ว 85%) คาดว่ากำไรสุทธิปี 2564 จะเติบโต 29% จากช่วงเดียวกันปีก่อนสู่ 5.1 พันล้านบาท หรือคิดเป็น EPS ที่ 2.62 บาทต่อหุ้น

*กระแสเงินสดจะเพิ่ม

ขณะเดียวกัน SPALI ประกาศจัดตั้ง SPALIRT (กองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ศุภาลัย) โดยยื่นไฟลิ่งแล้ว และคาดว่าจะทำ IPO ได้เร็วสุดในช่วงปลาย 2Q64 ถึงต้น 3Q64 SPALIRT คาดว่าจะเข้าลงทุนในอาคารสำนักงานแห่งหนึ่ง คือ โครงการศุภาลัย แกรนด์ ทาวเวอร์ พระราม 3 พร้อมกับอาคารจอดรถ โดยมูลค่าการจำหน่ายทรัพย์สินของโครงการดังกล่าวจะมีมูลค่าสูงสุดไม่เกิน 3.2 พันล้านบาท

และ SPALI จะเข้าลงทุนใน SPALIRT ในสัดส่วนไม่เกิน 20% ของมูลค่ารวมของหน่วยทรัสต์ทั้งหมด SPALIRT จะค้ำประกัน EBITDA นาน 3 ปี คาดว่า SPALI จะมีกำไรพิเศษสุทธิ (หลังจากหักค่าใช้จ่าย การค้ำประกัน ภาษี และค่าธรรมเนียม) ราว 1.5 พันลบ. ถ้า SPALI จัดตั้ง SPALIRT สำเร็จ บริษัทจะมีกระแสเงินสดเข้ามามากขึ้นและมีฐานะการเงินที่แข็งแกร่งขึ้น

ทั้งนี้ยังคงเรทติ้ง OUTPERFORM และเลือก SPALI เป็น Top Pick สำหรับกลุ่มที่อยู่อาศัยในปี 2564 ชอบ SPALI เนื่องจากบริษัทมี Backlog ที่แข็งแกร่ง EPS จะเติบโตสูงที่สุดเมื่อเทียบกับบริษัทอื่นๆ ในกลุ่มที่อยู่อาศัย ฐานะการเงินแข็งแรง อีกทั้งยังจะมีกระแสเงินสดเพิ่มขึ้นจากแนวโน้มที่จะจัดตั้ง SPALIRT ได้สำเร็จในช่วงกลางปี 2564 และผลตอบแทนจากเงินปันผลน่าสนใจที่ราว 6% ต่อปี ราคาเป้าหมายอยู่ที่ 21.50 บาทต่อหุ้น อ้างอิง PER 8.2 เท่า หรือเท่ากับระดับ +0.5SD ของ PER เฉลี่ย (จากราคาเป้าหมายเดิมที่ 19.20 บาทต่อหุ้น)

ซื้อบ้านกับโปรบ้าน ชีวิตง่ายขึ้นเยอะ

เพราะทุกเรื่องจะเป็นเรื่องง่าย

----------------------------------

สนใจสอบถามเพิ่มเติม